อาหารแมว เร็วๆนี้
สาระน่ารู้
การให้อาหารแมวที่เหมาะสมแต่ละช่วงวัย
ถ้าพูดถึงน้องเหมียวแล้ว หลายคนก็อาจจะนึกถึงความน่ารัก ขี้อ้อน ขี้ประจบแน่นอน ซึ่งก็ทำเอาทาสแมวหลายคนต้องตกหลุมรักเจ้าแมวเหมียว และเลี้ยงดูเอาใจใส่เป็นอย่างดี แต่เพื่อนๆ ทราบไหมคะ ว่าการดูแลใส่ในเรื่องอาหารการกินก็มีความสำคัญไม่แพ้กันเลย เพราะน้องเหมียวแต่ละช่วงวัยควรได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายแตกต่างกัน และไม่ว่าน้องเหมียวของเพื่อนๆ จะอยู่ในช่วงวัยไหนก็ตาม วันนี้เราก็มีเคล็ดลับการให้ อาหารแมว อย่างถูกวิธี แถมยังช่วยให้น้องเหมียวมีสุขภาพดีแข็งแรงอีกด้วยค่ะ ถ้าอย่างนั้นเราไปดูกันเลยค่ะ
การให้อาหารแมวในแต่ละช่วงวัย
1.อาหารลูกแมว
ลูกแมวเป็นวัยอยากรู้อยากเห็น ซึ่งในช่วงแรกลูกแมวจะได้รับภูมิต้านทานจากนมแม่ หลังจากหย่านม (อายุประมาณ 8 สัปดาห์) จึงเป็นช่วงเวลาสำคัญที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ เพื่อเสริมสร้างภูมิต้านทานให้กับลูกแมว เราจึงควรเลือกอาหารที่มีสารอาหารจำเป็นเพื่อการเจริญเติบโต การให้อาหารสำหรับลูกแมวควรเริ่มในปริมาณน้อยๆ วันละ 3 มื้อ เป็นอาหารละเอียด เพราะฟันของลูกแมวยังเคี้ยวได้ไม่ดี และควรมีน้ำสะอาดที่กินได้ตลอดเวลาด้วย เมื่อลูกแมวคุ้นเคย หรือเริ่มชินกับการกินอาหารแล้ว ค่อยๆ เปลี่ยนมาเป็นอาหารเม็ดจะดีกว่า เนื่องจากอาหารแบบเม็ดจะมีสารอาหารที่ช่วยในเรื่องการพัฒนาการเติบโตของลูกแมวได้ดีกว่า
2.อาหารแมวโตหรือแมวรุ่น
เมื่อน้องเหมียวเริ่มโตเต็มวัย อาหารที่ให้ควรเป็นสำหรับแมวโต อาจให้เป็นอาหารเม็ด อาหารเปียก อาหารกระป๋อง และอาหารสดที่เราปรุงให้ก็ได้ค่ะ ควรลดมื้ออาหารลงเป็นวันละ 2 มื้อ คือ มื้อเช้ากับมื้อเย็น ไม่ควรวางอาหารทิ้งไว้ด้วยนะคะ เพราะจะทำให้น้องเหมียวเสียนิสัย และทำให้อาหารเสีย บูด และเหม็นคาถ้วยอาหารนั่นเองค่ะ ถ้าน้องเหมียวเผลอกินต่อ หรือคุณล้างถ้วยไม่สะอาดละก็ อาจส่งผลให้ท้องร่วงได้ค่ะ และที่สำคัญอาหารที่ให้น้องเหมียวไม่ควรเป็นอาหารซ้ำๆ ที่มีรสเค็ม และควรปรับเปลี่ยนอาหารเพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารได้อย่างครบถ้วนนะคะ
3.อาหารแมวแก่
น้องเหมียวเป็นสัตว์เลี้ยงที่ถือว่ามีอายุยืนมากกว่า 10 ปี และเมื่อเข้าสู่วัยแก่ อาหารที่จะได้รับควรจะเป็นอาหารที่ย่อยง่าย ไม่มีแป้ง ไม่ติดมัน และควรให้กินในปริมาณที่น้อย เพื่อช่วยให้ระบบขับถ่ายดีขึ้น อาหารที่ดีควรให้เป็นอาหารเม็ด อาหารเปียก หรืออาหารปรุงเองสลับกันไป เพราะอาหารแต่ละประเภทมีข้อดีข้อด้อยที่แตกต่างกัน อย่างไรก็ตาม ควรให้กินอาหารตามสัดส่วนที่เหมาะสมกับช่วงวัยของน้องเหมียวจะดีกว่า
4.อาหารสำหรับแมวท้อง
การให้อาหารน้องเหมียวที่เหมาะสมถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้แข็งแรง และจะมีความสำคัญยิ่งขึ้นในช่วงที่ตั้งท้อง และให้นม อาหารที่เลือกให้แมวในช่วงนี้ ควรเลือกที่มีฉลากระบุว่ามีสารอาหารครบถ้วน และเหมาะสมสำหรับทุกวัย สำหรับการเจริญเติบโต หรือตั้งท้อง เพราะอาหารที่ใช้เลี้ยงแมวท้องต้องมีโปรตีนสูง มีไขมันไม่มาก และที่สำคัญไม่ควรให้อาหารบำรุงในช่วงตั้งท้อง จนทำให้แมวอ้วน จะทำให้แม่แมวคลอดยาก ซึ่งในช่วงตั้งท้องอาจทำให้มีบางช่วงที่แมวกินน้อย กินมาก หรือไม่ยอมกิน และถ้าแมวกินน้อยลงติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน หรือสภาพร่างกายของแมวเริ่มแย่ลง ควรรีบพาไปให้สัตวแพทย์ตรวจสุขภาพ และหลังคลอด แม่แมวก็กลายเป็นแมวแม่ลูกอ่อน ซึ่งอาหารที่ใช้เลี้ยงแม่แมวในช่วงนี้ไม่ได้ให้เฉพาะแต่แม่เท่านั้น ต้องถ่ายทอดไปยังลูกแมวด้วย โดยอาหารที่แม่แมวกินเข้าไปนั้นจะเปลี่ยนเป็นน้ำนมให้ลูกกินนั่นเอง ฉะนั้น ปริมาณอาหารที่แม่แมวกินจะต้องมีปริมาณเพียงพอเหมือนช่วงตั้งท้อง
ทั้งหมดนี้เป็นการเลี้ยงดูเจ้าแมวเหมียวในแต่ละช่วงวัย อย่าลืมดูแลด้วยอาหารที่เหมาะกับช่วงวัยด้วยนะคะ เชื่อว่าเหล่าทาสแมวทำได้อยู่แล้ว แค่มีความรู้หรือให้ความสนใจเกี่ยวกับการให้ อาหารแมว ที่เหมาะสมกับน้องแมว ก็จะช่วยให้เจ้าแมวเหมียวมีสุขภาพที่ดี ห่างไกลจากโรคภัย เป็นสัตว์เลี้ยงแสนรักที่ช่วยคลายเหงาให้กับทาสแมวไปได้อีกนานเลยค่ะ