การดูแลสุขภาพน้องแมวเหมียว
รวมเทคนิคการดูแลสุขภาพน้องแมว
เรื่องแปลก
มาดูความเป็นมากับตำนานแมวไทยกับความเชื่อเรื่อง “แมวตาเพชร” กันดีกว่า
คุณเคยได้ยินเกี่ยวกับเรื่อง เพชรตาแมว หรือ แมวตาเพชร กันมาบ้างหรือไม่คะ? และสิ่งที่เราว่ามานี้มีความเป็นมาอย่างไร หากเพื่อนๆ คนใดมีความสนใจในเรื่องนี้เหมือนกับเรา วันนี้เราจะขอหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมา เพื่อค้นหาตำนานเรื่องแมวตาเพชรนี้กันค่ะ เพราะเราเคยได้ยินคนสมัยก่อนเล่าให้ฟังว่า หากบ้านไหนเลี้ยง แมวไทย ที่มีตาเพชรนี้ไว้ในบ้าน จะมีแต่โชคลาภ ก็เลยเป็นที่มาของเรื่อง แมวตาเพชร เพื่อเรากลับมาย้อนตำนานเรื่องนี้กันค่ะ
ว่าด้วยเรื่องของ แมวตาเพชร ตามความเชื่อของคนโบราณสมัยก่อนนั้น เชื่อกันว่า หากบ้านไหนที่เลี้ยงแมวประเภทนี้ไว้ในบ้าน จะพบเจอแต่ความเจริญรุ่งเรือง จะช่วยคุ้มครองภัยอันตราย รวมถึงนำพาโชคลาภมาสู่ผู้เป็นเจ้าของ ส่วนในแง่ของวิทยาศาสตร์บอกว่า ชื่อของ เพชรตาแมว นั่นเกิดจากแมวเป็นต้อหินที่ตา โดยดวงตาข้างนั้นจะมีน้ำออกในตา แม้แมวไม่เจ็บปวด แต่ตาข้างนั้นจะใช้การไม่ได้ และเมื่อแมวตัวดังกล่าวได้ตายลง ดวงตาข้างที่เป็นต้อจะแข็งขึ้นราวกับก้อนหิน แต่จะมีความสวยงาม แวววาว ราวกับเพชร อย่างที่หลายคนเรียกกันว่า เพชรตาแมว นั่นเอง
ชาวไทยในอดีตมักมีความเชื่อในเรื่องสิ่งลี้ลับ รวมไปถึงเรื่องของวัตถุมงคลต่างๆ ที่ได้รับการกล่าวถึงมาช้านาน จนกลายมาเป็นเรื่องเล่าที่สืบต่อกัน ถึงความเป็นมาของตำนาน แมวตาเพชร ที่ว่า เมื่อครบรอบ 100 ปี ถึง 1,000 ปี จะมีเทพจากสรวงสรรค์ลงมาจุติยังโลกมนุษย์ 1 องค์ โดยเทพดังกล่าวจะมาเกิดเป็นแมว และได้นำแก้วมณีสารพัดนึก ซึ่งเป็นของวิเศษประจำตัวลงที่มาโลกมนุษย์ เพื่อชดใช้กรรมที่ยังเหลืออยู่ และก่อนที่เทพองค์ดังกล่าวจะละสังขาร ท่านจะประทานแก้ววิเศษที่รู้จักกันในนาม "เพชรตาแมว" ให้แก่ผู้ที่มีพระคุณ ที่เลี้ยงดูมาจนถึงวาระที่ได้ชดใช้กรรมหมดสิ้นแล้ว โดยก่อนจากไป แมวจะเข้ามาคลอเคลียกับผู้ที่เป็นเจ้าของเหมือนเป็นการบอกลาครั้งสุดท้าย และทิ้งเพชรตาแมวไว้ให้ ก่อนจะกลับขึ้นไปบำเพ็ญตบะบนสรวงสวรรค์ดังเดิม
อ้างอิง:kapook.com
ลักษณะของ เพชรตาแมว สังเกตได้ดังนี้
• มีลักษณะเป็นใสหรือขุ่น ภายในจะมีรอยเหมือนเส้นขีดๆ เหมือนมีเสี้ยนไผ่อยู่ในดวงตาของเพชรตาแมว แถมยังมีหลายสีด้วยกัน เช่น สีเหลือง สีเขียวอมฟ้า หรือสีฟ้าน้ำทะเล มีขนาดเท่าลูกแก้ว หากนำมาส่องดูด้วยกล้อง จะเห็นรายละเอียดภายในตา คล้ายๆ กับรังผึ้งขนาดเล็กอยู่ในเพชรตาแมวชิ้นนั้น
• ส่วนตาแมวที่ยังมีชีวิตอยู่ จะมีลักษณะใส ไม่มีสิ่งแปลกปลอม หรือสีขุ่นมัวมาเจือปนในเพชรตาแมว แต่จะซับซ้อนกว่าแบบแรก ไม่มีใครทำปลอมขึ้นมาได้ เนื่องจากเพชรตาแมวชนิดนี้จะมีความแวววาวมาก
• เชื่อกันว่าเพชรตาแมวที่ได้มาจากแมวสีสวาทนั้นหาได้ยากที่สุด เพราะโอกาสที่จะพบเห็นนั้นมีเพียงหนึ่งในหลายล้านตัว ลักษณะของแมวสีสวาทที่เชื่อกันว่าจะมีความเป็นไปได้ ที่จะเป็นแมวตาเพชรนั้น ในช่วงที่ยังมีชีวิตอยู่ตาของมันทั้งสองข้างจะใสเหมือนแก้ว เมื่อกระทบกับแสงจะมีความแวววาว แต่หากแมวตาย ดวงตาของมันก็มีมูลค่ามหาศาลเช่นกัน เพราะนัยน์ตาเพชรยังคงสภาพใสวาวยิ่งกว่าเพชรเสียอีก
ไม่ใช่เพียงแต่แมวสีสวาทเท่านั้นที่มีตาเพชร แต่ยังมีแมวที่มีตาเป็นสองสี อย่าง ขาวมณี อีกหนึ่งสายพันธุ์ที่เป็นแมวตาเพชร โดยแมวขาวมณีนี้ คนโบราณถือว่า เป็นแมวที่ให้คุณกับผู้เลี้ยง เชื่อกันว่าหากใครที่ได้เลี้ยงแมวพันธุ์นี้ที่มีตาสีต่างกัน โดยสีของตาจะเป็นทั้ง สีฟ้า-เหลือง-เขียว และ ขาว (ซึ่งสีขาวจะมีจุดสีแดงข้างใน) หากตัวไหนที่มีตาสองสีนั้น ตาข้างหนึ่งจะบอด และเมื่อแมวตาย ตาข้างที่บอด จะกลายเป็นเพชรประกายตามสีของตาของแมวนั่นเอง
อย่างไรก็ตาม เรื่องราวเหล่านี้เป็นเพียงความเชื่อที่บอกกล่าวเล่าขาน สืบต่อกันมาจากคนโบราณ ส่งต่อมาจากรุ่นสู่รุ่น เราจึงควรใช้วิจารณญาณในรับรู้ข้อมูลควบคู่กันไปด้วยนะคะ เพราะแมวไทย ที่เราเลี้ยงและนำโชคมาแก่ผู้เลี้ยงนั้น ไม่ได้มีเพียงแค่ แมวตาเพชร ยังมี แมวไทย ที่มีลักษณะดี เลี้ยงแล้วมีโชคลาภอยู่อีกหลายสายพันธุ์ค่ะ แต่ว่าจะเป็นพันธุ์อะไรบ้างนั้น ลองกดเข้าไปดูในบทความอื่นๆ ของ Petcitiz ได้เลยค่ะ