ทำความรู้จักแมวไร้ขนนาม สฟิงซ์

• แมวไร้ขนนามว่า สฟิงซ์ ตัวนุ่มนิ่ม นิสัยขี้อ้อน รูปลักษณ์ภายนอกอาจดูไม่น่าคบหา หรือไม่น่ารักเท่าแมวสายพันธุ์อื่น แต่ขอบอกเลยว่าถ้าได้ใกล้ชิดกับมันแล้วล่ะก็ คุณต้องตกหลุมรักมันอย่างแน่นอน

เมื่อได้ยินคำว่าแมว สฟิงซ์ คงคิดถึงรูปปั้นหินหัวเป็นคน ตัวเป็นสิงโต อยู่ที่หน้าพีรามิดเป็นแน่ แต่สำหรับทาสแมวหลายๆ คนคงเคยเห็น แล้วก็รู้จักกับสายพันธุ์นี้กันดีในฉายา เจ้าแมวไร้ขน ดูผิวเผินภายนอกอาจไม่น่าคบหา แต่จะมีใครรู้บ้างว่าถ้าได้ใกล้ชิดกับแมวพันธุ์นี้ล่ะก็ ต้องหลงรักอย่างแน่นอน

• ถิ่นกำเนิด

สฟิงซ์ เป็นแมวเหมียวขนาดเล็ก เรื่องของเชื้อสายดั้งเดิม หรือถิ่นกำเนิดยังเป็นเรื่องที่ถกเถียงกันอยู่ว่ามีต้นกำเนิดจากแถบอียิปต์ หรือฮาวายกันแน่ แต่ที่รู้คือสฟิงซ์ถูกนำมาเลี้ยงเป็นครั้งแรกในประเทศแคนาดา

• ลักษณะทั่วไป

ลักษณะทั่วไปของสฟิงซ์ คือ มีหัวทรงคล้ายลิ่ม หูจะเป็นรูปสามเหลี่ยมปลายมนกลม มีตาสีอำพัน ลำตัวยาว และขายาวปานกลาง ลักษณะของสีผิวหนังเป็นสีน้ำตาลขาว หรือดำขาว นอกจากนี้สฟิงซ์ยังเป็นแมวที่มีขนเส้นเล็กสั้น พื้นท้องแถบขาวยาวตั้งแต่ปากตลอดทั้งลำตัว หางยาวปลายเรียว

• ลักษณะนิสัย

น้องแมวสฟิงซ์มีนิสัยขี้อ้อน ขี้ประจบ มีความรักใคร่เป็นมิตรกับเจ้าของมากที่สุดเลยก็ว่าได้ เชื่อฟังเจ้าของ มีท่าทีที่เป็นมิตรกับคนแปลกหน้าด้วย เรียกว่าเชื่องมากๆ ถ้ามันต้องการความสนใจมันจะร้องด้วยเสียงเบาๆ แถมเสียงยังขาดหายเป็นจังหวะประมาณว่าเหมือนคนเสียงแหบ

• การดูแล

แมวไร้ขนมีข้อดีคือง่ายต่อการดูแล แต่ก็อย่าละเลยการอาบน้ำทำความสะอาดมันล่ะ เพราะด้วยการเป็นแมวที่ไม่มีขนนี่เอง ผิวหนังของมันจึงผลิตน้ำมันออกมาเคลือบผิวเพื่อปกป้องผิว มันจึงต้องอาบน้ำและได้รับการดูแลที่ดีด้วยเช่นกัน ถ้าคุณพามันไปออกแดดล่ะก็ ควรทาครีมกันแดดสำหรับผิวเด็กให้เขาด้วยนะคะ เพื่อปกป้องผิวหนังไม่ให้ถูกทำร้ายจากแสงแดด และเพื่อสุขภาพผิวหนังที่ดีค่ะ

แมวสฟิงซ์ ถือเป็นแมวที่เหมาะกับคนเป็นโรคภูมิแพ้ด้วย เพราะมันเป็นสัตว์ที่ไม่ก่อให้เกิดโรคภูมิแพ้ (Hypoallergenic) เหมือนในบรรดาแมวๆ ทั้งหลายเลย แถมนิสัยของมันก็ไม่ได้ต่างอะไรไปจากแมวทั่วไป และยังเป็นมิตรกว่าแมวทั่วๆ ไปเลยด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้นสำหรับคนรักแมวที่เป็นโรคภูมิแพ้ หรือคนที่กลัวเป็นภูมิแพ้ก็สามารถหามาเลี้ยงกันได้นะคะ

สำหรับคนที่อยากเลี้ยงน้องแมวสายพันธุ์นี้คงต้องคิดหนักเรื่องค่าตัวกันหน่อยนะคะ เพราะราคาของน้องแมวพันธุ์นี้ก็ไม่เบาเลย อย่างน้อยๆ ต้องเริ่มที่ 20,000 บาท ขึ้นไปกันเลยทีเดียว อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะเลี้ยงแมวพันธุ์ไหนก็อย่าลืมให้ความรักและใส่ใจเขาเยอะๆ นะคะ