วินาทีเจอกันสุดซาบซึ้ง พลังโซเชียลช่วยลุงตามหาสุนัขหายหลังรถคว่ำ

20754
สุนัขหาย

ถือว่าเป็นเรื่องราวดีๆ อีกแล้วค่ะ เรียกได้ว่าคนไทยไม่ทิ้งกันจริงๆ เนื่องจากคุณลุงองอาจได้รับความช่วยเหลือจากมูลนิธิ The Voice Foundation และ พลังโซเชียล ได้ช่วยกันออกตามหาน้องหมาที่พลัดหลงไปจากคุณลุง เมื่อครั้งที่คุณลุงองอาจได้ประสบอุบัติตุรถคว่ำ เมื่อวันที่ 6 เม.ย.60 หลังจากเข้ารับการรักษาและออกจากโรงพยาบาล ลุงก็ได้ออกตามหาสุนัขของตนอยู่ตลอด ซึ่งจากการประสบอุบัติเหตุในครั้งนั้นทำให้คุณลุงได้เสียดวงตาไปหนึ่งข้าง แต่คุณลุงก็ยังไม่ลดละความพยายามที่จะออกตามหา เจ้าถุงเงิน สุนัขที่พลัดหลงหายไปตั้งแต่ครั้งที่เกิดอุบัติเหตุ                             หมาหาย2

จนในที่สุด วันที่ลุงรอคอยก็มาถึง เมื่อวันที่ 21 เม.ย.60 ได้มีรายงานจากทางคุณนก อบต.หนองสาหร่าย ได้แจ้งกับคุณลุงว่าพบเจ้าถุงเงินอยู่ไม่ห่างจากจุดเกิดเหตุเท่าไหร่นัก จึงได้วีดีโอคอลมาทางคุณลุงเพื่อให้ลองเรียกชื่อ ทันทีที่เจ้าถุงเงินได้ยินเสียงคุณลุงองอาจ ก็เห่าตอบรับอย่างเสียงดัง โดยทางผู้ใหญ่บ้าน คุณเสนอ พรหมลุกชาติ จะไปคอยล้อมและเฝ้าไว้ให้ ในช่วงที่รอคุณลุงเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปรับตัวกลับ ซึ่งใช้เวลานานกว่า 6 ชม. โดยในระหว่างรอ เจ้าถุงเงินนั้นไม่ยอมให้ใครจับตัว แต่ก็ไม่ได้หนีเช่นกัน เพียงแค่นอนกินไก่ย่างรอไปเรื่อยๆ ซึ่งทางผู้ใหญ่บ้านก็ใจดี คอยนั่งเฝ้าให้อยู่ห่างๆ เพราะไม่อยากให้ถุงเงินตื่นไปมากกว่านี้นั่นเอง

หมาหาย2

ซึ่งวินาทีแรกที่ทั้งสองได้เจอกันนั้น ทำให้ทุกคนในเหตุการณ์รู้สึกดีใจ และซึ้งไปตามๆ กันเลยล่ะค่ะ เพราะคุณลุงนั้นมีความพยายามในการตามหาเจ้าถุงเงินอย่างมาก แม้จะเสียดวงตาไป 1 ข้าง ไม่สามารถขับรถได้ แต่ทุกครั้งที่เดินทางจากกรุงเทพฯ ไปที่ปากช่อง ต้องนั่งรถ บขส. หรือจ้างแท็กซี่ไป และหาบ้านเช่าแถวนั้น ใช้เวลาออกตามหาตั้งแต่ตี 5 จนถึง 3 ทุ่ม คุณลุงทำอย่างนี้มาแล้ว 5 ครั้ง แต่ไม่เคยที่จะยอมแพ้เลยสักครั้งในการที่ตามหาเจ้าถุงเงิน ในที่สุดครั้งนี้คุณลุงได้เจอกับเจ้าถุงเงินอย่างสมใจ แต่คุณลุงก็ยังอยากพบกับเจ้าบูบู้ สุนัขอีกตัวที่พลัดหลงไป โดยมีคนแจ้งเบาะแสว่าพบเจ้าบูบู้แล้ว แต่อยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุพอสมควร

ต้องขอบคุณพลังโซเชียลเป็นอย่างมากที่ช่วยกันตามหาเจ้าถุงเงิน จนได้พบกับคุณลุงองอาจในครั้งนี้ เชื่อเหลือเกินค่ะว่าคนไทยไม่ทิ้งกันแน่นอน เพราะดูได้จากเรื่องราวดีดีที่เกิดขึ้นนี่เอง

ที่มา: http://news.sanook.com/