เจ้าสุนัขของคุณชอบกินปลาจริงหรือไม่ กินแล้วจะมีประโยชน์เพียงพอต่อร่างกายเจ้าสุนัขหรือเปล่า?
อาหารสุนัขในปัจจุบันมีตัวเลือกเยอะมาก มีหลากหลายรสชาติ และเรายังสามารถเลือกอาหารให้เหมาะกับสายพันธุ์ของสุนัข ไม่ว่าจะเป็นสุนัขพันธุ์เล็ก สุนัขพันธุ์ใหญ่ และสุนัขโตเต็มวัยได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นแบบอาหารเม็ด อาหารแบบเปียก หรือบางบ้านก็นิยมทำอาหารข้าวคลุกตับไก่ ข้าวคลุกไก่ฉีกให้เจ้าสุนัขกิน แต่คุณรู้ไหมคะว่าเจ้าสุนัขก็สามารถกินปลาได้เหมือนกับเจ้าแมวเลย แถมดูเหมือนมันจะชอบปลาเอาซะมาก ๆ ด้วยล่ะค่ะ เหตุนี้จึงทำให้ในปัจจุบันผู้ผลิตอาหารสุนัขหลายเจ้า ได้เริ่มนำปลาเข้ามาเป็นส่วนประกอบในอาหารของเจ้าสุนัข แต่ผู้เลี้ยงสุนัขบางท่านยังไม่แน่ใจว่า เจ้าสุนัขของคุณชอบกินปลาจริงหรือไม่ กินแล้วจะมีประโยชน์เพียงพอต่อร่างกายเจ้าสุนัขหรือเปล่า? เรามาหาคำตอบกันค่ะ
สุนัขกินปลาได้หรือไม่
กินได้อย่างแน่นอนและหลายตัวชอบกินปลามากอีกด้วยถ้าปลามีความสด เพราะในเนื้อปลานั้นมีประโยชน์สูงมาก อีกทั้งยังอุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 ซึ่งเป็นกรดไขมันที่ร่างกายต้องการ แต่ดันสร้างเองไม่ได้จึงต้องกินเข้าไปเท่านั้น นอกจากนี้ในเนื้อปลายังเต็มไปด้วยโปรตีนที่มีคุณภาพสูง เช่นเดียวกับ กิน เนื้อ ไข่ นม เรียกได้ว่ากินปลาอย่างเดียวก็ทำให้ได้โปรตีนครบถ้วน และที่สำคัญสุนัขของคุณจะได้รับโปรตีนจากเนื้อปลาอย่างเต็มที่ เพราะเมื่อกินปลาไปแล้วร่างกายจะสามารถย่อยและดูดซึมโปรตีนไปใช้งานได้มากถึง 90 % ต่างกับการรับโปรตีนจากเนื้อวัว เพราะเนื้อวัวจะถูกย่อยและใช้ได้เพียง 50-60% เท่านั้น ฉะนั้นการกินเนื้อปลานั้นก็เหมาะกับสุนัขทุกช่วงวัย แม้กระทั่ง สุนัขที่มีปัญหาแพ้อาหาร หรือสุนัขสูงวัย อีกด้วยล่ะค่ะ
นอกจากนี้เมื่อเจ้าสุนัขกินปลาแล้วยังทำให้
- ขนสวยงาม เพราะน้ำมันในปลา จะช่วยเคลือบเส้นขนและช่วยบำรุงเส้นขนให้นุ่ม เงางามเป็นประกาย และไม่ทำให้หมาขนร่วงอีกด้วยค่ะ
- ผิวนุ่มชุ่มชื้น ในน้ำมันปลาช่วยลดปัญญาผิวแห้ง ลดอาการระคายเคืองของผิวหนัง
- รักษาข้อ ปลามีส่วนประกอบที่เป็นกระดูกอ่อนมาก ซึ่งเป็นแหล่งของกลูโคซามีน และคอนดรอยติน จึงช่วยบำรุงสุขภาพข้อต่อ และในโอเมก้า 3 มีส่วนช่วยข้อที่ทำงานหนัก เหนื่อยล้าและเจ็บปวด กลับมามีความยืดหยุ่นที่ดีขึ้น
- ช่วยรักษาระบบย่อย ในเนื้อปลามีโปรตีนที่ย่อยง่ายกว่าเนื้อสัตว์อื่นๆ อีกทั้งยังช่วยให้ร่างกายของเจ้าสุนัขดูดซึมได้ดี ทำให้ลดปริมาณกากตกค้าง และยังช่วยรักษาระบบย่อยของเจ้าสุนัขสูงวัยอีกด้วย
ทั้งนี้มีการค้นพบว่าปลาที่มีช่วงอายุยาว เช่น ปลาทูน่า และปลาดาบ มักมีโลหะหนัก โดยเฉพาะปรอทอยู่ หากให้สุนัขกินบ่อยเข้าจะส่งผลต่อสุขภาพได้ จึงไม่ควรให้เจ้าสุนัขที่คุณรักกินปลาทูน่า หรืออาหารสำเร็จรูปสูตรต่าง ๆ ที่ทำจากปลาทูน่า แต่หากจะให้ดีก็ควรให้เจ้าสุนัขเราได้รับโปรตีนจากปลาที่มีช่วงอายุสั้น เช่น ปลาแซลมอน และเป็นเนื้อปลาที่สุก เพราะในปลาดิบอาจมีพยาธิหรือปรสิตอยู่ ซึ่งจะส่งผลให้เจ้าตูบของเราท้องเสียหรือระบบย่อยทำงานผิดปกติได้…และวันนี้เราก็มีอาหารหมามาแนะนำให้กับเหล่าคนรักสุนัขทั้งหลาย แต่จะเป็นอาหารสูตรไหน? ยี่ห้อใด? เรามาทำความรู้จักไปพร้อม ๆ กันเลยดีกว่าค่ะ
อาหารสุนัข ฟิชโฟร์ด็อก Fish4Dogs
ฟิชโฟร์ด็อก คืออะไร? ฟิชโฟร์ด็อกก็คือ อาหารสุนัขเกรดอัลตร้าพรีเมี่ยม Fish4Dogs ซึ่งเขาจะผลิตแต่อาหารและขนมที่มีคุณภาพสูง เหมาะสําหรับเจ้าสุนัขและเจ้าเหมียวที่คุณรัก เขาคัดสรรวัตถุดิบจากแหล่งธรรมชาติไร้สารสังเคราะห์ และเขายังการันตีว่าผลิตภัณฑ์ของเขาทุกชิ้นล้วนทำจากวัตถุดิบที่ได้จากธรรมชาติ ไร้สารปรุงแต่งและสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้อีกด้วย เรียกได้ว่าจากทะเลลงถุงกันเลยทีเดียว แต่เหล่าคนรักสุนัขหลายคนยังไม่ค่อยคุ้นหูกันดีมากนักเท่าไหร่กับเจ้าอาหารยี่ห้อนี้ แต่เราจะเล่าให้ฟังค่ะว่าฟิชโฟร์ด็อกนี้เริ่มต้นจากฟาร์มเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ตลอดแนวชายฝั่งประเทศนอร์เวย์ และที่พิเศษเลยก็คือน้ำทะเลในบริเวณชายฝั่งประเทศนอร์เวย์เป็นน้ำเย็นจัด อีกทั้งยังใส และสะอาด มากทีเดียวเลยล่ะค่ะ ความพิเศษนี้แหละค่ะ ทำให้ที่นั่นมีสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสมกับการทำฟาร์มปลาเป็นอย่างมาก และฟาร์มปลาเหล่านี้ จะเลี้ยงมีการปลาภายใต้การควบคุม และใบอนุญาตตามกฏของการทำฟาร์มปลาในประเทศนอร์เวย์ (Norwegian Fish Farming Practices) ซึ่งเป็นกฏที่ดีที่สุดในโลกอีกด้วย อาทิ
- เลี้ยงโดยห้ามใช้ยาปฏิชีวนะและฮอร์โมนเร่งการเจริญเติบโต
- ใบอนุญาตจะกำหนดขนาดของฟาร์ม
- ผู้เลี้ยงจะต้องตรวจสภาพของทะเลอยู่เสมอ ถ้าทะเลมีการเปลี่ยนแปลงจะต้องหยุดการเลี้ยงทันที จนกว่าทะเลจะกลับสู่สภาพเดิม
อ่านแค่กฎระเบียบการเลี้ยงปลาก่อนจะนำมาแปรรูปเป็นอาหารให้เจ้าสุนัขของคุณได้รับประทาน ก็รู้แล้วล่ะค่ะว่าสดจริง จากทะเลลงถุงที่แท้จริง แต่ความดีงามของอาหารฟิชโฟร์ด็อกยังไม่หมดเพียงเท่านี้นะคะ ไปอ่านกันต่อได้เลยค่ะ
ส่วนประกอบอาหารฟิชโฟร์ด๊อกทำจากอะไรบ้าง?
ความดีงามของอาหารฟิชโฟร์ด็อก นี้ ก็คือการแปรรูปจากเนื้อปลาที่ได้คุณภาพสูงเท่านั้น นั่นก็คือปลาแซลมอนนอร์เวย์ อีกทั้งยังมีส่วนผสมของมันฝรั่งและถั่วพี แล้วยังมีคุณค่าสารอาหาร กลูโคซามีน และ คอนดรอยติน จากสารสกัดหอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ ที่ช่วยในการบำรุงข้อ พรีไบโอติค จากสาหร่ายนอร์เวย์ ช่วยเรื่องย่อยอาหารและปกป้องลำไส้อีกด้วย แต่ผลิตภัณฑ์ตัวอื่นๆของเขาอย่างเช่น ขนม ซีเจอร์กี้ Sea Jerky ก็ทำมาจากหนังปลา 100 % อบกรอบ ช่วยในการขัดฟัน ความอร่อยที่แคลลอรี่ต่ำ กินแล้วไม่อ้วน หรือขนมซีบิสกิต ก็ทำมาจากเนื้อปลา 95% และ ข้าว 5% และน้ำมันปลาแซลมอนของเขาเป็นน้ำมันปลาแซลมอนสกัดเย็น 100% เรียกได้ว่าสดอย่างที่เขาว่าจากทะเลลงถุงจริง ๆ ได้ประโยชน์ กินดี หายห่วงเลยทีเดียว ที่สำคัญค่ะ ฟิชโฟร์ด็อกเขายังเลือกใช้ปลาจากฟาร์มเพราะสามารถควบคุมคุณภาพปลาแซลมอนให้สูงอยู่เสมอได้ และยังช่วยสร้างความยั่งยืนต่อระบบนิเวศน์อีกด้วยนะคะ อาหารสุนัข Fish4Dogs ทุกถุงจะผลิตที่ประเทศนอร์เวย์เพราะใกล้แหล่งวัตถุดิบ ซึ่งปลาของเขาถูกเลี้ยงและแปรรูปอย่างสด สะอาด ถูกจริยธรรม ตาม แนวคิด “เลี้ยงด้วยปลาแล้วเห็นความแตกต่าง” แต่ที่มากกว่านั้น คือ ไม่ใช่ปลาอะไรก็ได้ แต่ต้องเป็นปลาที่ได้รับการเลือกสรรและควบคุมคุณภาพ เพื่อให้มั่นใจได้ว่า เพื่อน 4 ขา ของเราจะได้รับแต่สิ่งที่ดีที่สุดนั่นเองค่ะ
เมื่อเจ้าสุนัขกินอาหารฟิชโฟร์ด๊อกแล้ว ปากจะเหม็นหรือไม่?
จากผลสำรวจของผู้เลี้ยงสุนัขทั้งหลาย ที่ให้เจ้าสุนัขกินฟิชโฟร์ด๊อก ล้วนแต่พึงพอใจค่ะ และให้ข้อมูลว่าในขณะที่กินอาหาร ฟิชโฟร์ด๊อก เจ้าสุนัขของเขาก็กินได้ปกติ และดู มีความสุขกับการกินอาหารมื้อพิเศษนี้ ที่สำคัญเจ้าของยังสังเกตได้ว่าอาหารเหล่านี้ยังสามารถทำความสะอาดฟันของเจ้าสุนัขได้เป็นอย่างดี หากใครเคยให้เจ้าสุนัขรับประทาน อาจสังเกตได้ว่าสุนัขของคุณอาจจะมีฟันที่สะอาดและขาวขึ้นก็ได้นะคะ
อาหารฟิชโฟร์ด๊อกให้โปรตีนสูง จะส่งผลให้สุนัขของคุณเกิดอาการไฮเปอร์หรือไม่ ?
โดยส่วนใหญ่ผู้เลี้ยงสุนัขทั้งหลายมีความเข้าใจผิด ๆ ว่าอาหารที่ให้โปรตีนสูง จะส่งผลให้สุนัขที่คุณรัก มีอาการไฮเปอร์ นั่นก็คือการอยู่ไม่สุขนั่นเอง ซึ่งอาการเหล่านี้ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นปฏิกิริยาตอบสนองต่อส่วนประกอบบางอย่างที่มีอยู่ในอาหาร เช่น สีและกลิ่นสังเคราะห์ หรืออาจเกิดจากการได้รับพลังงาน สูงอย่างฉับพลันจากอาหารที่กินเข้าไป นั่นคืออาหารที่ให้ค่าดัชนีน้ำตาลสูงไม่ใช่จากการได้รับโปรตีนนะคะ และคนรักสุนัขทั้งหลายยังวางใจในอาหารฟิชโฟร์ด๊อกได้ค่ะ เพราะอาหารสุนัข Fish4dogs เลือกใช้ มันฝรั่งและแป้งจากถั่วพี เป็นแหล่งคาร์โบไฮเดรต (ในขณะที่อาหารสุนัขส่วนใหญ่ใช้ข้าวโพดและแป้งสาลี) การผสมผสานระหว่างมันฝรั่งและแป้งจากถั่วพี ทำให้ปรับสมดุลค่าดัชนีน้ำตาล (Glycemic Index, GI) ซึ่งส่งผลทำให้น้องหมาอิ่มเร็วและอยู่ท้องอีกด้วย
อาหารฟิชโฟร์ด๊อก เมื่อเทียบกับอาหารพรีเมียมยี่ห้ออื่นนั้นมีความแตกต่างกันหรือไม่ ?
ณ จุดนี้เราต้องบอกเลยค่ะว่าความแตกต่างนั้นของเขาแตกต่างที่ความสดและการใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพนั่นเองค่ะ เพราะหากผู้เลี้ยงสุนัขทั้งหลายได้ลองอ่านฉลากอาหารของอาหารหลากหลายยี่ห้อ เขาจะติดแจ้งไว้ว่ามีปลาเป็นส่วน ประกอบอยู่นั้น ผู้เลี้ยงสุนัขจะเห็นว่าปริมาณเนื้อปลาจริง ๆ ค่ะที่เป็นส่วน ประกอบนั้นน้อยมากจนถือว่าเป็นส่วนประกอบส่วนน้อย และ มักจะมีเนื้อสัตว์ชนิดอื่นที่ต้นทุนต่ำปนอยู่ด้วยเสมอ เช่นผลิตภัณฑ์ จากสัตว์ปีกต่าง ๆ แต่ความพิเศษของอาหารฟิชโฟร์ด๊อกสำหรับน้องหมาของเขานั้น เขาการันตีเลยค่ะว่าทำมาจากเนื้อปลาแซลมอนเพียงอย่างเดียวเท่านั้น และใส่ส่วนของเนื้อปลาในปริมาณที่สูง ที่สำคัญเลยนะคะ อาหารของฟิชโฟร์ด๊อกไม่มีเนื้อสัตว์อื่ืนเจือปนผสมอยู่แน่นอนค่ะคอนเฟิร์ม
เอาล่ะค่ะ นี่ก็คืออาหารฟิชโฟร์ด๊อกที่เราแนะนำให้เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกเพื่อสุนัขที่คุณรัก ทีนี้เรามีดูกันดีกว่าค่ะว่าอาหารที่ให้โปรตีนชนิดไหนบ้างที่ทำให้เจ้าสุนัขของคุณเกิดอาการแพ้ได้
โปรตีนจากเนื้อสัตว์ หลายคนอาจสงสัยว่าสุนัขแพ้เนื้อสัตว์มีด้วยหรอ? มีค่ะ แต่ไม่ใช่สุนัขทุกตัวนะคะอย่าเพิ่งตกใจไป โดยส่วนใหญ่อาหารสุนัขก็มีส่วนผสมของเนื้อสัตว์ ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหมู เนื้อไก่ เนื้อวัว รวมไปถึงตับ ซึ่งโปรตีนเหล่านี้จะประกอบไปด้วยกรดอะมิโนจำเป็นต่อร่างกายสุนัข แต่สุนัขบางตัวเมื่อทานอาหารที่มีส่วนผสมของเนื้อต่าง ๆ เหล่านี้แล้วเกิดอาการแพ้โปรตีนได้เช่นกัน เพราะส่วนผสมในอาหารก็ยังประกอบด้วยกรดไขมันอิ่มตัวในปริมาณที่สูง และมีขนาดของโมเลกุลที่ใหญ่ แบบนี้อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ร่างกายสุนัขของคุณดูดซึมและย่อยได้ยาก จึงทำให้ร่างกายของสุนัขตอบสนองให้เกิดอาการแพ้ได้นั่นเองค่ะ
ฉะนั้นแหล่งโปรตีนที่ดีต่อท้อง ดีต่อใจเจ้าสุนัขที่คุณรัก ควรมีขนาดของโมเลกุลที่เล็ก และมีไขมันต่ำ จะทำให้สามารถดูดซึมย่อยได้ง่าย นั่นก็คือโปรตีนจากเนื้อปลาค่ะ อาทิ ปลาแซลมอน ปลาเทราท์ ปลาแมกเคอเรล ปลาแฮริง และปลาซาดีนนั่นเองค่ะ เพราะปลาเหล่านี้ล้วนอุดมไปด้วยโอเมก้า 3 และ 6 จะช่วยให้เจ้าสุนัขของคุณมีผิวหนังที่แข็งแรง ไม่แห้ง อีกทั้งยังช่วยลดอาการของผิวหนัง บำรุงขนให้สวยงามอีกด้วยนะคะ
และทั้งหมดนี้ก็คือ อาหารที่ดีมีประโยชน์ ที่จะให้ผู้เลี้ยงได้อ่านไว้เป็นทางให้กับเจ้าสุนัขสุดที่รักของคุณ แต่อย่างไรก็ตามก่อนที่เราจะเลือกอาหาร หรือขนมหมา ที่ให้เจ้าหมาขบเคี้ยวต่าง ๆ ให้กับสุนัข อย่าลืมหาข้อมูลของส่วนผสม หรือชนิดของอาหารเหล่านั้นก่อนนะคะ เพื่อให้เรามั่นใจว่าส่วนผสมต่าง ๆ ไม่เป็นภัยต่อสุนัขที่เราเลี้ยง ทั้งนี้ก็เพื่อความปลอดภัย และสุขภาพที่ดีของสุนัขที่คุณรักนั่นเองค่ะ