ปรบมือดัง…ไม่ให้เศรษฐียูเออีเลี้ยงสัตว์ป่าอีกต่อไปแล้ว

629
เลี้ยงสัตว์ป่า

คนรวยส่วนใหญ่ในประเทศแถบตะวันออกกลาง มักนิยมเลี้ยงสัตว์แปลกๆ หรือสัตว์อันตรายบางชนิดและเน้นไปทางสัตว์ใหญ่อย่างเช่น เสือชีตาห์ เสือโคร่ง หรือสิงโต เหตุก็เพื่อเป็นการประกาศสถานะทางสังคม โดยหลายคนก็นิยมถ่ายรูปอวดสัตว์เลี้ยงของตนเองกับรถหรู หรือพาออกมาเดินเล่นน้ำตามชายหาดและถ่ายวีดีโอด้วยกันแบบใกล้ชิดอย่างน่าหวาดเสียวอีกด้วย

เลี้ยงสัตว์ป่า

ส่วนใหญ่สัตว์เหล่านี้จะถูกลักลอบ นำเข้ามาในประเทศอย่างผิดกฎหมาย ซึ่งเครือข่ายติดตามการค้าสัตว์ป่า และคาดว่าเป็นการซื้อขายที่มีเงินสะพัดหลายร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยจะมีการซื้อขายกันในตลาดมืด หากเป็นลูกเสือโคร่งหนึ่งตัว ก็จะมีราคาอยู่ประมาน 3,000 ดอลลาร์ หรือราว 1 แสนบาท หากเป็นสิงโตขาวจะมีราคาสูงถึง 50,000 ดอลลาร์ หรือเกือบ 2 ล้านบาทเลยทีเดียวค่ะ

เลี้ยงสัตว์ป่า

โดยผู้ใดที่มีสัตว์ป่าเหล่านี้ ไว้ในครอบครองแล้วนั้น ผู้เป็นเจ้าของจะต้องมอบสัตว์เลี้ยงเหล่านี้ให้แก่เจ้าหน้าที่ทันทีเช่นกัน และระบุว่า ห้ามเลี้ยง, ห้ามเป็นเจ้าของ และห้ามทำการค้าสัตว์ป่าและสัตว์ดุร้ายทุกชนิด หากฝ่าฝืนจะมีโทษปรับสูงสุดถึง 136,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรืออยู่ที่ประมาณ 4.8 ล้านบาทไทยนั่นเองค่ะ

หรืออาจต้องจำคุกสูงสุดเป็นเวลา 6 เดือน และต่อไปจากนี้บรรดาเศรษฐีในยูเออี จะไม่สามารถเลี้ยงเสือโคร่ง เสือชีต้าห์ หรือสิงโต ในบ้านและไม่สามารถพาออกมาเดินเล่นอวดหรือถ่ายรูปโชว์กันอีกต่อไป เนื่องจากทางรัฐบาลยูเออีออกกฎหมาย ห้ามเลี้ยงหรือค้าสัตว์ป่าอย่างเข้มงวดแล้วนั่นเองเพราะ หลังจากเผชิญกับกระแสกดดันจากกลุ่มพิทักษ์สิทธิสัตว์มาหลายปี ซึ่งกฎหมายใหม่นี้มีผลบังคับใช้ทันทีเช่นกัน

เลี้ยงสัตว์ป่า